หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Italy ❤︎ หนีอาจารย์ไปเติมความหวาน 10 วัน 9 คืนที่อิตาลีกัน [Part 4 Pisa]

ผ่านไปแล้วสองเมืองสวยๆ คราวนี้มาต่อกันที่ปิซ่า เมืองเกิดของกาลิเลโอ คนที่พิสูจน์ว่าโลกเรามันกลมไง เดี๋ยวคราวนี้จะพาไปชมหอเอนชื่อดังกัน จากฟลอเรนซ์ เราก็นั่งรถไฟมา 1 ชม. ก็ถึง กว่าจะถึงปิซ่าก็ปาไป 4 โมงกว่าละ แต่โชคดีที่ช่วงนี้พระอาทิตย์ตกช้า เลยยังดูเหมือนช่วงบ่ายเท่านั้น โรงแรมที่จองอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Pisa Centrale มาก เดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงแล้ว โรงแรมที่เราพักครั้งนี้ชื่อ Hotel La Pace ราคาคืนละ £44 ที่ตั้งโรงแรมค่อนข้างแปลกและโทรม แต่พอเข้าไปในโรงแรมจะรู้สึกเหมือนอยู่อีกที่นึงโดยรวมโรงแรมก็ดูสะอาด สะอ้านดี จะติก็แค่ห้องน้ำ ที่อาบน้ำแคบมากกกกกกกกกก ขนาดเราว่าไม่ใช่คนตัวใหญ่ ยังรู้สึกว่าเราชนแล้วชนอีก
พอเก็บของเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย ก็พร้อมเดินไปหอเอนปิซ่ากัน จากโรงแรม ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการเดินไปหอเอน ระหว่างทางก็จะต้องเดินผ่านสะพานข้ามแม่น้ำด้วย เพราะตัวเมืองปิซ่ามีแม่น้ำกั้นอยู่กึ่งกลาง

และแล้วก็ถึงสถานที่สำคัญ ที่ใครมาปิซ่าก็ต้องมา

แหม่ มาถึงทั้งที มันก็ต้องโพสคู่กับหอเอนใช่ไหมล่าาาา มีหรือเราจะพลาด เคล็ดลับเล็กๆคือเดินไปด้านหลังของหอเอน ตรงสนามหญ้าหน้าที่ขายตั๋วขึ้นหอเอน แถวนั้นคนถ่ายรูปน้อยกว่าด้านหน้า แถมเรายังรู้สึกว่ามุมนี้มันดูเอนมากกว่ามุมข้างหน้าอีก ถ่ายรูปกันสบาย ไม่ติดคนเท่าไหร่
หลังจากถ่ายรูปจนพอใจ เราก็คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อไป บทจะไป Lucca ต่อ เราก็ว่ามันเย็นเกินไป พอดีคุณชายนางเหลือบไปเห็นรถสามล้อสีเหลืองโดดเด่นคันนี้ นางเลยบอกลองนั่งดูไหม คุณลุงคนขี่ชื่อ Roberto แกน่ารัก และเป็นไกด์ทัวร์ปิซ่าที่ดีมาก แบบประทับใจสุดๆ
ส่วนใหญ่แกก็จะรอลูกค้าอยู่แถวๆหอเอนปิซ่านั่นแหละ หาง่ายมีแกอยู่คนเดียวที่ทำทัวร์แบบนี้นั่งทัวร์ ไปค่อนชั่วโมง ราคาแค่ 20ยูโรซึ่งถือว่าคุ้มมากกกกกกกก เราได้รู้ประวัติศาสตร์ของปิซ่าเยอะมาก เราเพิ่งรู้ว่าคนปิซ่าจริงๆไม่ชอบฟลอเรนซ์ เพราะ ฟลอเรซ์เคยทำลายปิซ่ามาก่อน ปกติวิชาประวัติศาสตร์นี่เป็นอะไรที่น่าเบื่อสุดๆสำหรับเรา แต่ลุงแกเฮฮามีวิธีการเล่าที่น่าสนใจ เราแนะนำจริงๆสำหรับใครที่อยากรู้เรื่องปิซ่าแบบ inside out ช่องทางการติดต่อนางก็คือ http://www.pedicabpisa.it หรือสามารถเข้าไปนัดคุยเวลากับลุงได้ที่เฟสบุ๊คเพจ https://www.facebook.com/PedicabPisa เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆทั้งนั้น แต่เราปลื้มมากเลยอยากจะบอกต่อ เราขอโชว์บางอย่างที่รู้จากลุงมาละกันเนอะ ไม่อยากเล่าหมด เดี๋ยวใครที่ไปใช้บริการลุงจริงๆจะหมดสนุก

หอเอนอีกที่นึงที่ไม่ไกลจากหอเอนปิซ่ามากนัก ลุงบอกว่าว่ามันเอนทุกปีเหมือนกัน
โรงหนังที่มีเสียงที่แรกของโลก
พอทัวร์เสร็จเรียนรู้ประวัติศาสตร์ปิซ่าจนเม็มสมองเต็ม ท้องร้องพอดี ไปกินข้าวเย็นกันดีกว่า อาหารเย็นวันเราไปที่ร้าน Hotel Villa Kinzica Ristorante Santa Maria เรามาตามคำแนะนำของลุงนักปั่น ลุงบอกว่าถึงร้านจะดูไม่โดดเด่นน่าเข้าเหมือนที่อื่น แต่ร้านนี้อร่อยสุดในปิซ่า แหม่เจ้าถิ่นพูดมาขนาดนี้จะไม่ลองได้ไง กินอิ่มหนำสำราญก็เก็บตัวเข้าที่พักดีกว่า เก็บแรงไปปีนเขาที่ Cinque Terre ในวันต่อไปดีกว่า
Mwahhh
xxx

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น